เลเซอร์หน้าใส ทางออกสำหรับคนมีปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนดีจริงหรือจกตา

เพื่อนๆหรือสาวๆคนไหนมีปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน บำรุงอย่างไรก็ไม่ดีขึ้นจนไม่รู้จะอย่างไร วันนี้เรามีทางออกดีๆสำหรับเพื่อนที่ที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน หมองคล้ำ มีรอยดำ รอยแดง ฝ่า กระ จุดด่างดำต่างๆ อีกอย่างสำหรับเพื่อนๆที่กลัวเข็มกลัวมีดแต่อยากมีผิวหน้าดูดีการทำเลเซอร์หน้าใสคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์เพื่อนๆมากทีเดียว มาดูกันดีกว่าว่าการทำเลเซอร์หน้าใสเป็นอย่างไรกันบ้าง

ที่มาภาพประกอบ: https://bit.ly/3IvLs6k

เลเซอร์หน้าใสคืออะไร

เลเซอร์หน้าใส คือการรักษาผิวหน้าทที่มีปัญหาเรื่องรอยดำ รอยแดง ฝ่า กระ จุดด่างดำต่างๆด้วยการใช้เลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถตรงเข้าสู่ชั้นเซลล์ผิวได้อย่างล้ำลึก รวดเร็ว และตรงจุด เพื่อแก้ไขปัญหาผิวบริเวณดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจน

เลเซอร์หน้าใสดีอย่างไร ควรทำหรือไม่

แน่นอนว่าการทำเลเซอร์หน้าใสช่วยให้ผิวหน้าของเรากระจ่างใสมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนๆที่มีปัญหาเรื่องรอยดำรอยแดงจากสิว รอยดำจากแผลเป็น ผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ รวมถึงริ้วลอยเล็กๆที่เกิดขึ้นบนใบหน้า การทำเลเซอร์หน้าใสจะช่วยให้ผิวหน้าของเราเรียบเนียนกระจ่างใสยิ่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญการทำเลเซอร์หน้าใสยังสามารถย่นระยะเวลาในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายให้สั้นลง ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวไวขึ้นอีกด้วย

ที่มาภาพประกอบ: https://bit.ly/3Rqxvuo

ประเภทของเลเซอร์หน้าใส

การทำเลเซอร์หน้าใสมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษา เลเซอร์แต่ละแบบก็มีคุณสมบัติต่างกันมาดูกันว่าเลเซอร์แต่ละแบบเป็นอย่างไรบ้าง

1. Fractional Co2 Laser เป็นเลเซอร์ที่มีลำแสงลักษณะเป็นจุดขนาดเล็กมาก มีความแม่นยำสูง สามารถปล่อยพลังงานลงไปในชั้นเซลล์ผิวได้อย่างล้ำลึกตรงจุดที่ต้องการ กระตุ้นให้ผิวสร้าง Collagen ใหม่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้ผิวหนังชั้นบนไหม้หรือเกิดการทำลาย ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยเล็กรอบดวงตา รอบปาก ร่องลึกที่แก้มและหน้าผาก หลุมสิว แผลเป็น รวมถึงบริเวณที่มีปัญหารอยเหี่ยวย่น ผิวไม่สม่ำเสมออย่าง มือ แขน ข้อศอก ลำคอ เข่า เป็นต้น

2. IPL หรือ Intense pulse light เป็นการรักษาด้วยคล้ายกับการทำเลเซอร์ แต่ใช้ลำแสงที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 500-1,200 นาโนเมตร ด้วยลำแสงเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวคลื่นที่กว้างจึงสามารถแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุมโดยยิงลำแสงไปยังบริเวณผิวที่มีปัญหาคล้ายกับแสงแฟช IPL มีการกระจายลำแสงมากกว่าเลเซอร์สามารถส่งตรงไปยังชั้นผิวหนังแท้โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก ช่วยแก้ไขปัญหาฝ้า กระ รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ผิวแตกลายและรอยสิว รวมถึงกำจัดขนบริเวณต่างๆได้เช่น รักแร้ ขา แขน อก จุดซ่อนเร้น เป็นต้น

3. Dual Yellow Laser เลเซอร์หน้าใสด้วยคลื่นแสงที่มีพลังงานความเข้มข้นสูง มีลำแสง 2 ชนิดได้แก่ แสงสีเหลืองความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร และแสงสีเขียวความยาวคลื่น 511 นาโนเมตร ลำแสงมีจุดโฟกัสที่แม่นยำตรงจุดโดยไม่ทำลายผิวบริเวณรอบข้าง ส่งตรงไปยังเซลล์ผิวเป้าหมายที่มีปัญหา ช่วยลดเลือน ฝ้า กระ ริ้วรอยตามใบหน้า รอยสิว ปัญหาผิวหน้าที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวไม่เรียบเนียนหน้าหมองคล้ำ

4. Q-switch Laser เลเซอร์ที่สามารถปล่อยคลื่นแสงที่มีความเข้มข้นสูงในช่วงเวลาสั้นๆสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นเซลล์ผิวหนัง ช่วยลดเลือนฝ้า กระ รอยดำ รอยแดง ให้ผิวสว่างกระจ่างใสยิ่งขึ้น แต่มีข้อเสียคือลำแสงที่ปล่อยออกมาสามารถทำลายผิวบริเวณรอบข้างได้

5. E-Matrix Laser โปรแกรมเลเซอร์หน้าใสด้วยเทคโนโลยี Fractional Radiofrequency หรือคลื่นวิทยุจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนตรงลงสู่ชั้นเซลล์ผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ผิว ช่วยรักษาแผลเป็น หลุมสิว ริ้วรอย รูขุมขนกว้างให้กระชับขึ้น พร้อมยกกระชับใบหน้าให้ได้สัดส่วน เป็นต้น

ที่มาภาพประกอบ: https://bit.ly/3yUDrVf

เลเซอร์หน้าใสเป็นอีกตัวเลือกในการดูแลผิวหน้าสำหรับเพื่อนๆที่มีปัญหาริ้วรอย รอยแผลเป็น ฝ่า กระ จุดด่างดำ รูขุมขนกว้าง บำรุงด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้วผลลัพธ์อาจไม่ดีขึ้น แนะนำให้ลองใช้วิธีการทำเลเซอร์หน้าใส รวดเร็ว สะดวก ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ส่วนเพื่อนๆต้องการเลเซอร์ชนิดไหนสามารถดูรายละเอียดของสถานให้บริการได้เลยนะคะ